กลุ่มประเภทที่สร้างรายได้
โดยหากจากแบ่งกลุ่มคนที่หารายได้บน Instagram กันก็จะอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้ คือ
Influencers:
ทุกวันนี้ใครๆ ก็เป็น Influencer กันได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นดารา นักร้องหรือ เซเลบอะไรกันมาก่อน (แต่แน่นอนแหละ ว่าถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ก็สร้างชื่อเสียงได้ง่ายขึ้น) เพียงแค่เราเริ่มต้นจากการผู้เชียวชาญทางด้านใดด้านหนึ่ง และสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาได้ จนผู้คนพร้อมที่จะคล้อยตามเมื่อเรานั้นแนะนำสินค้า หรือบริการบางอย่าง ซึ่งหากเรารู้ตัวว่าเราทำสิ่งเหล่านี้ได้ เราก็สามารถเริ่มสร้างโอกาสที่ดี จากการสร้างรายได้ใน Instagram ได้เช่นกัน
เจ้าของธุรกิจ หรือเจ้าของแบรนด์:
ถ้าเรามีของมาขายแล้ว instagram นับเป็นอีกช่องทางที่มีประสิทธิผลเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนีกว่า 25 ล้านธุรกิจ ใช้ instagram ในการเข้าถึงบรรดาคนที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของพวกเขา โดยการโปรโมทสินค้าเหล่านี้ เพื่อให้สินค้าหรือบริการไปเตะตาคนเหล่านี้อยู่เสมอ รวมถึงอีกหลายรายยังใช้ Instagram เพื่อทำการซื้อ-ขายสินค้าโดยตรงได้เลยอีกด้วย เพราะทุกวันนี้คนก็เริ่มมาตามหาสินค้าใน Instagram มากขึ้นๆ ทุกวันนับเป็น 83% ของผู้ใช้ทั้งหมดเลยทีเดียว
แล้วแบบไหนที่สร้างรายได้
ซึ่งไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน อย่าเพิ่งไปกังวลที่จำนวน followers ให้มากเกินไป เพราะไม่ว่าเราจะมีจำนวน followers เท่าไรก็ยังพอมีทางให้เราหารายได้จากมันได้อยู่เสมอ แต่ก่อนที่จะเริมอะไรสักอย่าง สิ่งที่วันนี้เราอยากจะบอกกันก่อนคือการเลือกหัวข้อใน Instagram ให้ถูกเสียก่อน ว่าหัวข้อใดเป็นเทรนด์ยอดฮิตที่จะช่วยให้เราดึงดูด followers, ได้รับความสนใจมากขึ้น ไปจนถึงการสร้างรายได้จากมัน เพราะหากเลือกหัวข้อถูกเมื่อไร ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับเราได้มากขึ้นเท่านั้น ลองมาดู 5 เทรนด์ยอดฮิตที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2021 กันเลยดีกว่า
เทรนด์การท่องเที่ยว
ตลาดที่ใหญ่ที่สุดใน IG อันดับ 1 คงหนีไม่พ้นในเรื่องการท่องเที่ยว เพราะในยุคหลังๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่มี Social Media เกิดขึ้นนั้น พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คือไม่ใช่แค่เที่ยวเท่านั้น แต่ยังต้องมีการถ่ายรูปถ่ายวิดีโอมาแชร์ให้คนอื่นเห็นอยู่เสมอ ซึ่งจากที่ IG เป็นแอพสำหรับลงรูปภาพอยู่แล้ว จึงกลายเป็นปลายทางสำคัญของประสบการณ์ของผู้ท่องเที่ยวที่จะเอารูปมาถ่ายทอดลงในนี้ ซึ่งจากผลสำรวจที่ผ่านมาก็พบว่า กว่า 60% ของคนที่ออกเดินทางท่องเที่ยว จะมาอัพเดทรูปและประสบการณ์ของพวกเขาลงใน Social Media อยู่เสมอ และกว่า 40% ของคนที่อายุต่ำกว่า 33 ปีนั้น ก็มักที่จะหาแรงบันดาลใจในการออกเดินทางจาก IG
ทำให้ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเลื่อนไปทางไหน เราก็จะได้เห็นบัญชี IG ที่ลงเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว และที่พักสวยๆ มากมาย เพราะหลายๆ คนที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวนั้น ก็คงคิดแล้วว่า ไหนๆ เราก็เที่ยวแล้ว ทำไมถึงไม่พยายามหารายได้จากตรงนี้ไปเลย เลยทำให้ใน IG เต็มไปด้วย Influencer ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และคนเหล่านี้ส่วนมากก็เป็น Partner กับบรรดาที่พักสุดหรู ที่พวกเขาทำการโปรโมทให้ โดยอาจจะแลกกับค่าจ้างรีวิว หรือให้พักฟรีก็มีหลายรูปแบบ
แต่ด้วยความที่ตลาดนี้ใหญ่ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักหากจะมีคนทำเยอะแล้ว ดังนั้นการที่จะเข้าไปเป็นส่วนนึงของเทรนด์การท่องเที่ยวใน IG นั้น จึงควรเริ่มต้นจากตลาดที่ย่อยลงไปอีกจากการท่องเที่ยวดู เพื่อให้มีความเฉพาะตัวกว่าเจ้าอื่นๆ เช่น เป็น influencer ในการท่องเที่ยวแบบหรูอยู่สบาย หรือจะเป็นการท่องเที่ยวแนวผจญภัยแบ็คแพ็คประหยัดงบ หากเราเลือกตั้งต้นให้ดี และหากลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเนื้อหาได้แล้วนั้น เดี๋ยวยอดคนตามก็จะเริ่มมาเอง
ในส่วนของจุดเด่นของทั่วๆ ไปของสายท่องเที่ยวนั้น ก็คือการถ่ายรูปสวยๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ (รวมถึงที่พัก) หรือมีการทำคอนเทนท์แบบวิดีโอที่สร้างสรรค์เพื่อดึงดูดใจให้คนมาเที่ยวตาม และการเล่าประสบการณ์ที่น่าสนใจก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ก็ช่วยให้ผู้คนเชื่อมโยงกับเราได้ง่ายขึ้น ซึ่งในเรื่องของรายได้นั้นก็เรียกได้ว่ามีโอกาสมากมาย ทั้งการเป็นพาร์ทเนอร์กับที่พัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวก็พบได้ทั่วไป แต่บางรายก็สร้างรายได้จากสิ่งที่เหนือกว่านั้น อย่าง @Saltinourhair ที่เป็น Influencer ด้านการท่องเที่ยวแบบคู่รักนั้น หลังจากมีภาพสวยๆ มากมาย พวกเขาก็ขาย Filter สำหรับการแต่งรูปบนแพลทฟอร์มของพวกเขาได้อีกด้วย และหลายๆ คนที่ชอบงานภาพของพวกเขา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าเพื่อเอาแต่งรูปท่องเที่ยวตัวเองในสไตล์เดียวกันบ้าง
แหล่งข้อมูลสถิติ
เทรนด์สุขภาพและการออกกำลังกาย
ด้วยเทรนด์สุขภาพมาแรงและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากมองให้ดีแล้วนี่เป็นอีกตลาดที่ค่อนข้างมีความกว้างมากๆ เพราะตลาดนี้นอกจากจะมีในเรื่องของอุปกรณ์ออกกำลังกาย และคลาสการออกกำลังกายต่างๆ แล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องอาหาร การกิน ที่ดีต่อสุขภาพ อาหารเสริมลดน้ำหนัก และพวกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ชะลอความแก่ อะไรต่างๆ นานา ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในหมวดนี้แทบทั้งหมด จนทำให้นี่จึงเป็นอีกเทรนด์ที่มีหลากหลายธุรกิจเข้ามาอยูด้วยกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากใครสนใจจะเข้ามาอาจจะต้องเลือกเรื่องที่ถนัดของตัวเองเสียก่อน เพราะถ้าจะให้กวาดหมดก็คงยาก
ซึ่งในช่วงโควิดแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพ และการออกกำลังกายภายในบ้านยิ่งสูงขึ้นไปอีก ทั้งผู้คนที่มองหาสินค้าอย่างอุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือต้องการ Personal Trainer เพื่อมาช่วยออกกำลังกายที่บ้านแทนการที่ออกไปที่ยิมหรือฟิตเนสไม่ได้ หรือใครที่งบน้อยหน่อยก็อาจมองหาคอนเทนท์ประเภทการออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้านกันอย่างมากมาย จนมี Influencer หุ่นดีเป็นจำนวนมาก ที่ต่างเข้ามาเพื่อรองรับความต้องการของผู้คนในส่วนนี้
ความน่าสนใจของเทรนด์อีกอย่างนึง คือเป็นเทรนด์ที่แบรนด์ที่มีสินค้าและบริการก็สามารถขายได้ หรือสำหรับคนที่ไม่มีสินค้าและบริการเป็นของตัวเอง ก็อาจเริ่มต้นจากการใช้คอนเทนท์ให้คำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ จนวันนึงก็สามารถเป็น Influencer ที่มางานเข้ามาได้เอง ซึ่งเท่าที่เห็นโดยส่วนมากนั้นบรรดา Influencer มักจะมี Referral Link แปะอยู่ในโพสท์ของตัวเอง และถ้ามีคนสนใจและกดคลิกเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการของ Partner นั้นๆ เจ้าของบัญชี IG ก็จะได้รับส่วนแบ่งที่เสมือนเป็นค่าแนะนำไปด้วย
แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยการแข่งขันกันหน่อย เพราะทุกวันนี้บรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนั้น นอกจากจะมีคอนเทนท์การขายของแล้ว ก็ยังปรับตัวเองเพิ่มคอนเทนท์เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพมากมาย เช่น เทคนิคการลดน้ำหนัก หรือรวมท่าออกกำลังกายในบ้าน ก็ช่วยดึงดูดให้คนตามได้มากเช่นกัน
เทรนด์ความสวยความงาม
อุตสาหกรรมความสวยความงามเป็นอีกหนึ่งสายที่สร้างกำไรให้กับเจ้าของบัญชีใน IG ได้เป็นอย่างดี และมี Influencer ระดับโลกหลายๆ คนที่มีรายได้หลักล้านไปจนถึงหลักพันล้าน จากการแนะนำสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ จนนำไปสู่การมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งจากข้อมูลของทาง IG เองก็พบว่า กว่า 96% ของแบรนด์เครื่องสำอางค์นั้นก็เริ่มต้นมากจาก IG ก่อน เพราะเป็นแหล่งรวม Influencer และผู้ติดตามมากมาย โดย 65% ของวัยรุ่นนั้น มักซื้อเครื่องสำอางค์ผ่านทาง Social Media หลังจากได้รับชมรีวิวจาก influencer ที่ดูเชื่อถือได้ หรือบางทีก็เลือกซื้อกับ influencer คนนั้นๆ เลย
ซึ่ง Influencer ด้านความสวยความงามก็มีหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกูรูการสอนแต่งหน้า (บางรายก็สอนเรื่องการทำผม) รีวิวผลิตภัณฑ์ออกใหม่จากแบรนด์ต่างๆ แนะนำสินค้าดีๆ ที่ช่วยเพิ่มความงามมากขึ้น และจากพฤติกรรมโดยส่วนมากนั้น Influencer ประเภทที่สอนแต่งหน้าเก่งๆ ก็มักจะมาวิน รับ followers ไปก่อนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีคนให้ความสนใจเยอะ (ก็แน่ล่ะ ใครๆ ก็อยากสวย) จากนั้นผู้คนก็จะเริ่มตามถึงแบรนด์ที่คนๆ นี้ใช้ และถ้ายิ่งมีขายจบในคนเดียว ก็จะเป็นต่อยอดไปถึงการสร้างรายได้ได้เลย
หากอยากเริ่มที่จะเป็น influencer ด้านนี้แล้ว สิ่งแรกที่ต้องถามตัวเองก่อนก็คือ กลุ่มคนดูของเรานั้นจะเป็นใคร เพราะการแต่งหน้าก็มีความหลากหลายกันไปในแต่ชวงวัย หรือรูปแบบการแต่งแบบออกงาน แต่งแบบในวันธรรมดาเบาๆ หรือวันที่ออกไปทำงาน ก็สามารถเจาะลึกลงไปเฉพาะทางได้ นี่ก็รวมไปถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักๆ เช่นกัน เพราะกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มก็มองหาคุณค่าที่ต่างกันออกไป ซึ่งหากเราเชี่ยวชาญในด้านใดด้านนึงได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ติดตามมาได้เอง
แหล่งข้อมูลสถิติ
เทรนด์แฟชั่น
ด้วยความที่ IG เป็นแอพรูป จึงเหมาะกับอะไรที่เป็นแฟชั่นอย่างมาก เพราะสินค้าแฟชั่นก็มักคู่กับรูปภาพสวยๆ ที่ชวนดึงดูดแทบทั้งนั้น ซึ่งใน IG ก็กลายมาเป็นช่องทางแจ้งเกิดให้กับเหล่าดีไซเนอร์หน้าใหม่ด้วยอีกจำนวนมาก เพราะความอิสระในการทำเองลงเอง และมีกลุ่มคนที่ให้ความสนใจกับแฟชั่นที่ไม่ใช่แบรนด์หรูอีกมากมาย ที่มาสรรหาสไตล์การแต่งตัวในรูปแบบต่างๆ ใน ซึ่งทุกวันนี้เทรนด์แฟชั่นใน IG ยังกลายมาเป็นช่องทางให้คนเข้าไปหาสไตล์แฟชั่นใหม่ ทั้งสินค้าออกใหม่จากแบรนด์ต่างๆ หรือตามเทรนด์การแต่งตัวในปัจจุบัน
เทรนด์แฟชั่นก็ไม่ต่างอะไรจากเทรนด์อื่นๆ ที่มีเทรนด์ย่อยๆ ข้างในอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามชิ้นส่วนต่างๆ บนร่างกาย บางคนอาจจะนำเทรนด์แค่รองเท้า บางคนนำแค่เสื้อกับกางเกง หรือพวกเครื่องประดับต่างๆ เท่านั้นก็มี เทรนด์ย่อยๆ อาจจะแบ่งตามจุดประสงค์ของการแต่งกายก็ได้ เพราะทุกคนก็อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญการแต่งกายไปซะทุกแบบ เลยอาจเจาะลงไปเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น เทรนด์ชุดทำงาน เทรนด์ชุดสำหรับถ่ายแบบ นี่ยังไม่รวมถึงการแบ่งแบบพื้นฐานด้วย เพศ และ อายุ อีก ทำให้นิยามของคำว่าแฟชั่นจึงค่อนข้างกว้างมาก และยังมีพื้นที่ให้ผู้เล่นหน้าใหม่ลงไปแจมได้เสมอ
ซึ่งเทรนด์นี้ก็น่าจะเหมาะกับ หลายๆ คนที่บุคลิกภาพที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง ก็ช่วยดึงดูด follower ได้เป็นจำนวนมาก จนอาจกลายเป็น influencer ของเทรนด์แฟชั่นต่อไปได้ด้วย ซึ่งพอดังมากเข้า อาจจะเริ่มมีแบรนด์เข้ามาจับเป็นพาร์ทเนอร์เข้าไปอีก โดย influencer หลายคนมักใช้วิธี Tag แบรนด์ที่ใส่ เพื่อใส่ดีเทลของแต่ละส่วนของชุดเข้าไปได้ด้วย (ด้วยฟังก์ชั่นของ IG Shopping) ที่ช่วยประสิทธิภาพให้กับคอนเทนท์รูปแบบนี้มากๆ
เทรนด์การดูแลลูกน้อย
เมื่อคนที่เติบโตมาในยุค Social Media ทั้งหลายต่างก็เริ่มมีครอบครัวและลูกตัวน้อยกันแล้ว เลยทำให้คนกลุ่มนี้ ก็ยังคงมีการใช้ Social Media ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ แม้กระทั่งเรื่องการดูแลลูกก็ตาม เพราะการมี Community ก็ช่วยให้พวกเขาได้รับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์มาก่อนได้ง่ายขึ้น
โดยข้อมูลจาก Business IG เอง พบว่า 68% ของบรรดาคุณแม่ส่วนมากใช้ IG อยู่ทุกวัน และมีเช็ค IG อยู่ที่ประมาณ 6 ครั้งต่อวัน อีกทั้งยังมีข้อมูลที่น่าสนใจที่ว่า 78% ของบรรดาคุณแม่ก็ลงมือทำอะไรบางอย่างทันที ที่เห็นคอนเทนท์ที่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ในส่วนของคุณพ่อ ประมาณ 50% ที่เล่นแอคทีฟบน Instagram และกว่า 69% ก็ทำอะไรบางอย่าง เหมือนกับคุณแม่เหมือนกัน โดยสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ทำนั้น ก็คือการลองนำเอาเทคนิค หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่ๆ จากพ่อ แม่คนอื่นๆ มาลองปรับใช้กับปัญหาที่มีอยู่ อย่างเช่น ลูกร้องทั้งคืนทำยังไง? หรือนมแบบไหนถึงเหมาะสำหรับลูกน้อยวัยนี้ที่สุด เป็นต้น
ส่วนนึงที่เทรนด์นี้เกิดขึ้นได้ เพราะบรรดาพ่อ แม่ ต่างมองหาคนที่มีประสบการณ์เดียวกัน หรือคนที่มีประสบการณ์ร่วม ที่เชื่อมต่อไปยังบรรดาพ่อ แม่คนอื่นๆ ที่อาจะแชร์ในเทคนิคในการดูแลลูกกัน ไปจนถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ที่แต่ละบ้านต้องเผชิญ และมีประสบการณ์ไม่ต่างกัน รวมถึงในแง่การแชร์ถึงสินค้าต่างๆ สำหรับลูกน้อย ว่าชิ้นไหนเหมาะกับเด็กแบบไหน และบางทีก็มี Tutorial การใช้อุปกรณ์บางอย่างอยู่เช่นกัน เทรนด์ก็เลยมีพื้นที่สำหรับ Influncer ที่มีเทคนิคการเลี้ยงลูกมาแนะนำเยอะ (หรือส่วนมากก็มักเป็นคอนเทนท์ความน่ารักของลูกๆ ตัวเอง) หรือแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับเด็ก ก็มักเริ่มหาพาร์ทเนอร์ได้จากตรงนี้เช่นกัน
แหล่งข้อมูลเชิงสถิติ
สรุปเนื้อหา
สุดท้ายแล้ว แม้ว่าเราจะไม่มีความเชี่ยวชาญในเทรนด์อะไรตามที่กล่าวมา ก็อย่าเพิ่งถอดใจกันง่ายนัก เพราะเรื่องแปลกแต่จริงอีกอย่างคือ การแสดงความเป็นตัวเองออกมา หรือการแสดงออกถึง Lifestyle ต่างๆ ผ่านทาง Social Media นั้นก็สามารถสร้างรายได้ได้เหมือนกัน เพราะจากข้อมูลพบว่า คนกว่า 80% ที่เล่น Social Media มักมีการถ่ายทอดเรื่องราวเหตุการณ์หรือความรู้สึกนึกคิดของตัวเองออกมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะใน IG ที่ผู้ใช้นั้นใช้เวลาเฉลี่ยถึง 53/นาที ต่อวัน ในการตามติดชีวิตของคนอื่นไปเรื่อย
ตัวอย่างของ @Proudlock ก็เป็น Influencer อีกคนที่โด่งดังมาจากการใช้ชีวิตตามปกติของตัวเอง จนมีคนตามเขากว่าเจ็ดแสนราย จนกระทั่งแบรนด์ต่างๆ ก็จับตามอง พร้อมกับเอาสินค้าตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชายคนนึ้ ดังนั้นอย่าไปคิดอะไรมาก กับการสรรหาสิ่งที่ตัวเองอาจไม่ได้สนใจ หรือไม่เชี่ยวชาญจริงๆ เพราะบางครั้งแล้วคอนเทนท์ที่น่าสนใจมันอาจอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดก็เป็นได้