ทัศนคติที่เปลี่ยนไป กับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตในทุกวันนี้ก็คือ ผู้คนเริ่มหันมาสนใจ และใส่ใจในประเด็นสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเท่าเทียมกันของคน สิทธิและเสรีภาพ การเหยียดผู้คนด้วยรูปลักษณ์หน้าตา การล่วงละเมิดทางเพศ เรื่องสังคมชายเป็นใหญ่หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งเหล่านี้นั้นถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันรายวัน และกลายเป็นดราม่าในสังคมอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้มุขตลกที่อาจจะเคยสร้างเสียงหัวเราะมาได้ในช่วงอดีตที่ผ่านมา พอมาถึงวันนี้นอกจากจะกลายเป็นเรื่องไม่ขำแล้ว ยังกลับกลายเป็นว่า ไม่เป็นที่ยอมรับกันในสังคมไปแล้วอีกด้วย
กับเหตุการณ์นี้คือตัวอย่างที่ดี ที่ในช่วงเวลาหนึ่งคนเราอาจตลกไปกับคำตอบของคนๆ นึง ที่มีความฝันอยากจะไปหัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนกรุงเทพที่พอมีฐานะหลายๆ คนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถเดินทางไปเมื่อไรก็ได้ เพราะอยู่ใกล้ๆ และใช้ราคาไม่สูงมากนักสำหรับพวกเขา แต่ทั้งนี้ก็ยังหลงลืมไปว่าความเหลื่อมล้ำในสังคมบ้านเรานั้น เป็นปัญหามาเนิ่นนานขนาดไหน และยังมีคนส่วนมากในสังคมที่มองว่าการเดินทางไปหัวหินนั้น มีค่าใช้จ่าย และต้นทุนที่มากเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้ ซึ่งเมื่อวันหนึ่งที่ผู้คนในประเทศเริ่มมองเห็นและเข้าใจในปัญหานี้มากขึ้น “ความฝัน” ที่ผู้ฟังคนนี้ได้ให้คำตอบเอาไว้ ก็ไม่ใช้เรื่องที่น่าตลกอีกต่อไป
ดังนั้นการระมัดระวังความเห็นที่อาจกระทบไปถึงความรู้สึกของผู้คน จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความเป็นสากล ไม่ว่าจะประเทศไหนในโลกมองก็สามารถชี้ถึงความเหมาะสม ผิดถูกได้หมด และไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ไม่เรื่องที่ไม่ถูกต้องโดยเสมอมา การที่จะแตะต้องถึงประเด็นเหล่านี้จึงต้องคิดให้ถี่ถ้วนจริงๆ
ความผิดพลาดในอดีต อาจมีผลกับปัจจุบันได้
ในยุคสมัยนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าสิ่งใดที่ขึ้นไปสู่โลกออนไลน์แล้วนั้น ก็จะอยู่บนนั้นตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันเราจะมั่นใจว่าสิ่งที่เราทำจะถูกต้องมากขนาดไหน แต่ความผิดพลาดในอดีตก็สามารถผุดกลับขึ้นมาได้เสมอ และยิ่งเป็นยุคที่ผู้คนให้ความสนใจในประเด็นสังคมอย่างที่ได้พูดถึงในข้อแรกแล้วนั้น ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่เราเองอาจทิ้งร่องรอยในอดีตที่ดันเผลอแสดงความคิดเห็น หรือสนุกไปกับเรื่องที่ไม่สมควร
สำหรับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นก็เป็นตัวอย่างที่ตรงกับหัวข้อเป็นอย่างดี เพราะเหตุการณ์ในคลิปที่เกิดขึ้นนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวอดีตตั้งแต่ 4 ปีมาแล้ว แต่ก็กลับกลายมาเป็นปัญหาในปัจจุบัน แม้ว่าคนพูดเองในปัจจุบันอาจจะมีทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปไปจากเดิมแล้วก็ตาม ทำให้ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบธุรกิจหรือบุคคลนั้น จึงควรมีช่วงเวลาที่จะตรวจสอบเรื่องราวของตัวเองบนโลกออนไลน์อยู่เสมอ ว่ามีเผลอแสดงความคิดเห็นอะไรที่ไม่สมควรเอาไว้หรือไม่ ถ้ามีโอกาสเคลียร์เรื่องราวเหล่านั้นในอดีตก็ควรที่จะทำให้เรียบร้อย แต่ถ้าหากพบว่าเรื่องเหล่านั้นมีมากมายหลายแหล่งเหลือเกิน จนคิดว่าอาจจะตามลบได้ไม่หมด ก็ควรที่เตรียมพร้อมเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่โดนแหกมานั้น จะได้มีถ้อยคำแถลงที่เตรียมพร้อมเอาไว้ให้ดีเผื่อรับมือมือกับเหตุการณ์ที่อาจไม่คาดคิด
รีบออกแถลงรีบขอโทษอย่างจริงใจ
จุดเริ่มต้นของ Crisis Management ที่ดีที่สุดก็คือการออกมาขอโทษอย่างจริงใจเป็นอันดับแรก ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม การออกมาขอโทษจะช่วยบรรเทาความหัวร้อนก่อนได้เสมอ แต่ทั้งนี้ก็อย่างที่ได้ย้ำไปในทุก ๆ บทความที่มีความเกี่ยวข้องกับ Crisis Management ก็คือความจริงใจ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ปัญหาเดิมนั้นเกิดขึ้นมาอีก
ซึ่งจากเหตุการณ์ของเคสยายป๋อมแป๋ม ก็นับว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์ตามแบบฉบับได้เป็นอย่างดี ทั้งการรีบออกมาแถลงขอโทษแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีตก็ตาม โดยยายป๋อมแป๋มนั้นก็ได้ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยท่าทีที่เข้าใจปัญหา และสำนึกผิดผ่านออกมา ผ่านทางตัวอักษรที่เขียนขึ้นมา รวมถึงลักษณะการตอบคอมเมนท์ที่ค่อนข้างแสดงให้เห็นถึงความสำนึกผิด และน้อมรับนำไปปรับปรุง รับปากว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
ต่างกับตัวอย่างของอาตุ่ยที่มีหลุดแก้ตัวมาที่บอกว่าเรื่องที่บอกเป็นแค่เพียงเรื่องแต่ง ซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเลย เพราะผู้คนต่างโกรธกันเรื่องดูถูกคน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าหรือเรื่องแต่งก็ไม่ได้เปลี่ยนปัญหาที่เกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งเคสดาราที่ขายสินค้าอวดสรรพคุณเกินจริงจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ตาม แม้ว่าจะมีกระแสดราม่าโจมตี แต่ตัวเธอเองก็ดูไม่มีท่าทีจะจบ จนสุดท้ายปัญหาก็ยังวนเวียนให้เป็นกระแสในโลก Social อย่างต่อเนื่อง และดูท่าจะจบได้ยากจริงๆ
สรุปบทเรียนที่ได้จากเคส "เมื่ออดีตตามมาปัญหาปัจจุบันของยายป๋อมแป๋ม"
- ทัศนคติและความคิดของผู้คนนั้นเปลี่ยนไปเสมอ เรื่องที่เคยคิดว่าเป็นมุขตลกหรือทำมาเอาฮา แต่สุดท้ายอาจกลายเป็นการเหยียดคนอื่น ก่อนจะแสดงออกทางความคิด หรือคำพูดอะไร ต้องระวังเรื่องศีลธรรมสากล และมนุษยธรรมเอาไว้เยอะๆ
- ความผิดพลาดในอดีต อาจทำปัจจุบันซวย นอกจากการระวังการแสดงออกทางความคิดแล้ว อาจต้องคอยหมั่นดูโพสท์หรือสิ่งที่เคยแสดงออกไปในอดีตอยู่เสมอ ถ้าเจอแล้วเอาออกได้ก็ควรเอาออก แต่ถ้าไม่ได้ก็อาจเตรียมคำขอโทษสวยๆ เอาไว้ได้เลย
- เมื่อพลาดแล้วรีบขอโทษอย่างจริง ยิ่งถ้ามองแล้วผิดจริงก็น้อมรับเป็นตรงๆ และพร้อมแก้ไข อย่าพยายามออกมาแถเยอะ เพราะจะทำให้เรื่องยิ่งแย่ไปใหญ่