ทำไมคนถึงใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple กันมากนัก ?
สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ของแบรนด์อื่น ๆ เช่น Microsoft หรือ Xiaomi คงแปลกใจและสงสัยกันมาก ว่าทำไมผู้คนถึงนิยมใช้อุปกรณ์ของ Apple กันนัก เวลาไปประชุมนอกสถานที่ เจอผู้คนในเมือง บนรถไฟฟ้า หรือการใช้ชีวิตในสถานที่ต่าง ๆ เรามักจะเห็นคนหยิบอุปกรณ์แบรนด์ Apple กันออกมาอย่างน้อย ๆ ก็ 1 ใน 3 ของคนที่เราพบเจอได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เหตุผลต่าง ๆ สามารถสรุปให้เข้าใจได้โดยง่ายดังนี้
แนวคิดการสร้างและการพัฒนาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค : รู้หรือไม่ ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ Apple พัฒนาออกมา ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ทางทีมงานหรือตัวผู้พัฒนาเองยังอยากได้เอาไว้ใช้งานเอง เพราะของทุกสิ่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับ Apple แล้ว จะต้องตอบโจทย์ว่ามันขาดไม่ได้ในชีวิตจริง ๆ
อีกทั้งตัวแบรนยังมีแนวคิดในการสร้างหรือพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ๆ ก็ต่อเมื่อพบว่าสิ่งนั้นมันดีกว่าของเดิมเท่านั้นอีกด้วย ถ้าหากทำอะไรบางอย่างที่ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ ก็จะไม่ทำ เรื่องนี้เห็นได้จากการที่ตัวแบรนด์ แม้จะเป็นผู้ผลิตเครื่อง PC และระบบปฎิบัติการที่เป็นกราฟฟิกเป็นเจ้าแรก จนสามารถกำเนิดการใช้เมาส์ออกมาได้ในที่สุด แต่อุปกรณ์ใหม่ ๆ ของ Apple หลังจากนั้นก็ไม่ได้สร้างอะไรออกมาอีก เพียงแต่อัปเกรดสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นเท่านั้น แนวคิดดังกล่าวถูกใช้ในการพัฒนา iPod, iPhone, หรือ iPad และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน
“ถ้าหากทำอะไรบางอย่างที่ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ ก็จะไม่ทำมันออกมา”
ใช้ง่าย เร็ว ดี สวย และไม่ยุ่งยาก : หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยังเลือกใช้อุปกรณ์ของ Apple ไม่เปลี่ยนแปลง ก็คือความโดดเด่นในด้านของดีไซน์ การใช้งานที่ดี เร็ว สวย ไม่ยุ่งยาก และใช้งานง่าย อุปกรณ์ทุกอย่างของตัวแบรนด์มาจากแนวคิดของสตีฟจ๊อบส์ที่ใส่ใจในงานด้านดีไซน์เป็นหลัก แต่ถ้าตัวอุปกรณ์สวย แต่กลับใช้ยากใช้ไม่ได้ มันก็ไร้ค่า ดังนั้นการพัฒนาอุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมดจึงใส่ใจในงานด้าน UI เป็นอันดับแรก ผู้บริโภคอย่างเราต้องรู้สึกว่าอุปกรณ์ของ Apple ทุกชิ้นนั้นใช้งานง่าย เข้าใจและเรียนรู้ได้ไม่ยาก กล่าวได้ว่า Apple โฟกัสเรื่องการใช้งานง่ายมาก่อนทุกเรื่องนั่นเอง ดังนั้นอุปกรณ์ของ Apple จึงใช้งานได้ง่ายจริง ๆ
ความง่ายของ Apple ยังส่งผลไปถึงการวางจำหน่ายตัวอุปกรณ์ของตัวเอง หากสังเกตุกันดี ๆ ทางแบรนด์ไม่ได้วางจำหน่ายอุปกรณ์ของตัวเองออกมาหลายรูปแบบมากนัก เช่น iPhone 12 ที่พึ่งวางจำหน่ายไปก็มีเพียง 4 แบบเท่านั้น โดยแต่ละแบบจะแบ่งจุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกันออกไป เช่น iPhone 12 จอใหญ่กว่า iPhone 12 mini เพราะเน้นสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบเอาไว้ใช้เพื่อเล่นเกมหรือดูสื่อมีเดียต่าง ๆ หรือ iPhone 12 Pro มีกล้องที่ค่อนข้างโดดเด่นมากกว่า iPhone 12 ธรรมดา เพราะต้องการเอาใจคนชอบถ่ายภาพโดยเฉพาะนั่นเอง ซึ่งด้วยจำนวนรุ่นที่มีวางจำหน่ายไม่มากนัก จึงทำให้ผู้บริโภคอย่างเราสามารถตัดสินใจซื้อได้โดยง่าย รวมถึงยังทำให้พนักงานใน Apple Store สามารถจดจำเรื่องเกี่ยวอุปกรณ์นั้น ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกต่างหาก
“ใส่ใจในงานด้านดีไซน์ แต่ถ้าตัวอุปกรณ์ใช้ยากมันก็ไร้ค่า”
อีกด้านหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานเชื่อมั่นในอุปกรณ์ของ Apple ก็คือประสิทธิภาพและคุณสมบัติของตัวอุปกรณ์ ด้วยเทคโนโลยีของ Apple ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้ทุก ๆ การใช้งานเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ และอุปกรณ์ในแต่ละประเภทก็สามารถเชื่อมโยงกันได้โดยง่าย เช่นการแชร์ไฟล์อุปกรณ์หนึ่งของ Apple ไปยังอุปกรณ์หนึ่ง สามารถทำได้โดยตรง ผ่านเทคโนโลยีของ Apple เอง อย่าง AirDrop เป็นต้น หรือจะในด้านความปลอดภัยของข้อมูล ทางแบรนด์ก็มองว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ซึ่งความปลอดภัยดังกล่าวขึ้นชื่อจนทำให้เหล่านักพัฒนาต้องปวดหัวกันมาแล้วนักต่อนัก
บริการที่มองและใส่ใจผู้บริโภคเป็นหลัก : อีกสิ่งหนึ่งที่ Apple สามารถทำและแสดงออกมาได้ดี ก็คืองานด้านบริการ เรื่องนี้หากใครเคยใช้ Apple จะรู้กันดีว่า หากอุปกรณ์ Apple ของเรามีปัญหา หรือทาง Apple พบปัญหาที่อุปกรณ์ที่เราถือครองอยู่ ทาง Apple จะทำการซัพพอร์ตโดยการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ใหม่ทั้งหมดในทันทีและเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการให้บริการโดยพนักงานจะจัดการปัญหาให้กับผู้บริโภคได้เห็นในทันที หากโทรเข้าไป จะไม่มีการต่อสายไปมาให้ยุ่งยาก ดังนั้นผู้ใช้อย่างเราเวลาเจอปัญหาการใช้งานอุปกรณ์ของ Apple จึงสามารถจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็วที่ Apple Store หรือทางการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ได้เลย
ชิป M1 อนาคตและปัจจุบันของ Apple
อีกเรื่องหนึ่งที่เราสามารถคาดหวังกับแบรนด์ Apple ในอนาคตได้เลย คือการที่ทาง Apple ได้เริ่มผลิตชิปประมวลผลของตัวเองขึ้นมาใช้เองแล้ว หลังจากที่ทางแบรนด์ใช้ชิปของ intel มาโดยตลอด สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของทางแบรนด์ ที่จะควบคุมการผลิตอุปกรณ์ทุกสิ่งด้วยตนเองทั้งหมด ซึ่งสามารถพัฒนาและควบคุมคุณภาพได้ง่ายและดีกว่า
โดยแม้ว่าปัจจุบันชิป M1 จะยังถือเป็นก้าวแรกของการพัฒนาก็ตาม ทำให้ตัวอุปกรณ์ยังไม่สามารถใช้งานกับซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือทั่วไปของแบรนด์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Apple ไม่ได้ แต่จากการทดสอบการใช้งานโดยสื่อต่าง ๆ พบว่าตัวชิปดังกล่าวสามารถโชว์ประสิทธิภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว (และแบรนด์อื่น ๆ ก็กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์กับชิป M1 อยู่)
“Apple ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่มันยังคือภาพลักษณ์”
สำหรับตัวผู้เขียนเอง ก็เป็นหนึ่งคนที่ใช้อุปกรณ์ของแบรนด์ Apple เช่นเดียวกัน ความพิเศษของ Apple นอกจากเรื่องความง่ายในการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว รูปโฉมของตัวอุปกรณ์หรือตัวแบรนด์ยังถือเป็นเอกลักษณ์และจุดที่ดูน่าสนใจอีกด้วย กล่าวได้ว่า การใช้แบรนด์อุปกรณ์ของ Apple ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของตัวผู้ใช้ รสนิยม และมุมมองความคิดได้เลยทีเดียว เพราะแบรนด์ Apple สำหรับคนไทย เป็นเหมือนแบรนด์ที่คนต้องมีฐานะดีระดับนึงถึงจะสามารถมีใช้ได้นั่นเอง