พูดถึงกระแสคนดังในโลกโซเชียลตอนนี้คงหนีไม่พ้น “พิมรี่พาย” สาวสายแซ่บผู้มีหลากหลายบทบาทและมากความสามารถบนโลกออนไลน์ เพราะเธอเป็นทั้งแม่ค้าเจ้าของเพจที่ขายดีจนคนตามถึง 2 ล้านกว่าคน เป็น Youtuber สุดปัง และล่าสุดก็ยังออกเพลง (ที่เนื้อเพลงด่ากลุ่มลูกค้าที่ชอบมาด่าเธอ 555+) เป็นของตัวเองด้วย
ซึ่งตอนนี้ที่กลายเป็นกระแสดังขึ้นมามากๆ ก็เพราะผลงาน CSR วันเด็กของเธอ ที่ออกสู่หมู่บ้านชนบทในจังหวัดเชียงใหม่ และควักกระเป๋าตัวเองกว่า 500,000 บาท ในการพัฒนาชุมชน จากการไปติดแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อให้ไฟฟ้าเข้าถึง สอนชุมชนปลูกผัก และนำทีวีไปตั้งเพื่อให้เด็กๆ ได้เปิดโลก มีความฝันกับเขาบ้าง ทำให้คลิปนี้นั้นสัมผัสไปถึงจิตใจของคนดู จนก่อให้เกิดประเด็นในสังคมถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในประเทศเป็นอย่างมาก (ขนาดนั่งดูเองยังแอบรู้สึกน้ำตาคลอ ถึงโอกาสพื้นฐานในชีวิตที่น้องๆ ไม่เคยมีมาก่อน) เมื่อเธอเป็นกระแสมาขนาดนี้แล้ว เราจึงอยากพาผู้อ่านไปเจาะ 5 แนวทางความสำเร็จการขายแบบ “พิมรี่พาย” กัน ว่าทำไมถึงปังได้ขนาดนี้!
1) จุดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง”
พิมรี่พายก็เป็นอีกคนที่ขยับธุรกิจตัวเองจากแม่ค้าขายเครื่องสำอางค์ในตลาดขึ้นมาสู่ออนไลน์ได้อย่างเต็มตัว และได้ก็หาพื้นที่ให้กับตัวเองได้อย่างสวยงาม จากจุดเด่นในช่วงเริ่มต้นจากการขายอะไรก็ได้ จนเป็นที่มาของเพจ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง” โดยสิ่งที่เธอขายได้นั้น เครื่องสำอางค์ที่เธอถนัด เพราะชอบการแต่งหน้าเอง ไปจนถึงพวกเครื่องรางของขลังสายมู น้ำพริก ขนมต่างๆ และเธอก็ขายของทั้งหมดที่ว่าด้วยวิธีการไลฟ์สด ด้วยลีลาและสไตล์ของตัวเองไม่เหมือนใคร
ทำให้เป็นจุดเด่นอย่างมากกับร้านที่มีขายหลายๆ อย่าง คนก็ต้องคอยมาดูว่าแต่ละวันจะขายอะไร โดยตัวเธอเองก็เริ่มจากขายทุกสิ่ง จนค่อยๆ ปรับสโคปของสินค้าอีกครั้ง จนเหลือในสิ่งที่ตัวเองถนัด และเธอก็ทำมันได้ดีเสียด้วย โดยเคล็ดลับอีกอย่างที่เธอเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ และสร้างรายได้ให้กับเธอจำนวนมหาศาล ก็คือหลักการง่ายๆ (แต่อาจจะทำยาก) ของทุกๆ ธุรกิจ ที่จะดั้นด้นไปหาสินค้าต้นทุนที่ถูกที่สุด และมาขายในราคาที่สูงที่สุดที่เป็นไปได้ ซึ่งทั้งนี้ก็อาศัยการพูดเก่ง ขายเก่งตามสไตล์ของเธอที่เชิญชวนลูกค้าให้ซื้อได้มากขนาดนี้
2) สร้าง Character น่าจดจำ กลายเป็น Personal Branding
คาแรคเตอร์ของ พิมรี่พาย นั้น จะให้นิยามว่าเป็นสาวเปรี้ยวแซ่บสายแรงก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งในช่วงแรกของการขายความแรงของเธออาจไม่ได้มากมายขนาดนี้ แต่เหมือนว่ามีเหตุการณ์ Internet ตัดในการขายครั้งหนึ่งที่ทำให้เธอสบถคำหยาบด้วยความอารมณ์เสีย แต่ก็ดันไปได้ใจกลุ่มลูกค้าซะงั้น ทำให้เธอก็ปรับลุคมาให้ดูเป็นคนตรงๆ แรงๆ และเติมความหยาบเข้าไปในการขายแต่ละครั้ง เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า (สาย Hardcore 555+) จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อผสมกับแฟชั่นการแต่งกายของเธอแต่ละครั้งที่ออกมาขาย ก็ยิ่งเสริมภาพลักษณ์ในส่วนนี้ให้เป็นที่จดจำมากขึ้น
และกุญแจสำคัญอีกอย่างของการสร้างคาแรคเตอร์ของเธอ คงหนีไม่พ้นในเรื่องของความจริงใจ ที่ควบคู่มาพร้อมกับการเป็นคนตรงๆ ของเธอ ในการขายแต่ละครั้ง ที่ชี้แจงตรงๆ กับลูกค้า ว่าของดีหรือไม่ดี ใช้มาเองเป็นยังไง หรือแม้กระทั่งบอกด้วยว่าของเป็นของจริงหรือของปลอม (จนเคยโดนบุกรวบของไปแล้ว เพราะขายของปลอม และไม่ผ่าน อ.ย. รับรองด้วย) นอกจากนี้เธอยังแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองมากขึ้น นอกจากการขายของอย่างเดียว ด้วยการเป็น Youtuber ในช่องตัวเองผ่านรายการต่างๆ
จนทั้งหมดได้กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งของเธอ และเป็น Personal Branding ในระดับที่สามารถทำสินค้าเป็นแบรนด์ของตัวเองออกมาได้มากมาย อีกทั้งยังมีแพคเกจสินค้าของตัวเองแพครวมถึงใส่หนังสือประวัติการเป็นแม่ค้าของตัวเองลงไปด้วย ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะมาถึงขั้นนี้
3) ไม่หยุดที่แม่ค้า แต่เปิดหาโอกาสอื่นๆ
แม้ว่าเธอจะเป็นแม่ค้าที่ขายของเป็นหลัก แต่นอกจากการขายของแล้ว เธอยังไม่หยุดที่จะสร้างกระแสในโลกออนไลน์ เพราะด้วยคาแรคเตอร์ที่เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มแฟนคลับจากการขายของอยู่แล้ว ก็เลยใช้ฐานลูกค้าที่มีอยู่ มาเปิดช่องของตัวเองใน Youtube ต่อ แล้วสร้างสรรค์คอนเทนท์ในแบบของตัวเอง ด้วยรายการต่างๆ ที่หลากหลายทั้งรายการพาชิมอาหาร พาเที่ยว หรือแต่งหน้า ก็มีหมด
ซึ่งล่าสุดก็ยังมีการทำเพลงของตัวเองและมี MV ที่ดูดีเลยทีเดียว ทำให้เห็นว่าการเผยแพร่ตัวเองในหลากหลายช่องทางนั้น ยิ่งตอกย้ำความปัง ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และจากฐานลูกค้าของขาย ก็กลายเป็นคนดูใน Youtube และจากคนดูใน Youtube ก็ไปตามเพจขายของเธอ จนคนเพิ่มในทุกช่องทางที่ทำ
4) CSR สไตล์เล่นใหญ่ เน้นพัฒนาอย่างยั่งยืน
พักหลังๆ เราจะเห็นคอนเทนท์ CSR ของพิมรี่พายมากขึ้น ในการเข้าไปบริจาคของหรือพัฒนาชุมชนต่างๆ ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งเป็นกระแสดังไป กับการไปยังหมู่บ้านกันดารในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เงินที่ทางพิมรี่พายนั้นใช้ในการพัฒนาชุมชนก็นับว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อย โดยภาพที่เราเห็นนั้น แต่ละอย่างก็ดูเล็งเห็นถึงอนาคต เช่น การใช้แผงโซล่าเซลล์ในการผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ใช้ได้ในระยะยาว
ซึ่งการทำ CSR ในครั้งนี้ ก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับการทำ CSR ระดับบุคคล หรือ CSR ของธุรกิจอื่นๆ ได้ในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงจาก CSR แบบขอไปที ที่เข้าไปทำแล้วก็จากไป เปลี่ยนเป็นการเข้าไปพัฒนาที่เล็งเห็นถึงความยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถทำคอนเทนท์ดูสนุก ชวนติดตามเพื่อให้ผู้คนรับรู้ถึงการทำ CSR ในแต่ละครั้งด้วย
5) หาลูกค้าเป้าหมายให้เจอ และมอบโปรโมชั่นใจสั่น
อีกหนึ่งวิธีการที่น่าสนใจในการขายของ พิมรี่พาย นอกจากการปั้นคาแรคเตอร์ตัวเองแล้วก็คือการเข้าถึงลูกค้าได้ถูกที่ เนื่องจากพิมรี่พายขายสินค้าหลายอย่าง ทำให้แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าของสินค้าแต่ละอย่างก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทำให้ในแต่ละครั้งที่พิมรี่พายตั้งใจจะขายสินค้าแต่ละอย่างนั้น จะต้องมีการทำการบ้านก่อน ว่ากลุ่มลูกค้าของสินค้าดังกล่าวนั้น อยู่ที่ไหนบนโลกออนไลน์ ก่อนที่ทำการไลฟ์สดและแชร์การขายลงบนพื้นที่นั้น ซึ่งก็จะได้กลุ่มลูกค้าที่สนใจลูกค้าจริงๆ เข้ามาเลือกซื้อ และกดติดตามต่อไปในอนาคต
นอกจากเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายยังไม่พอ ยังต้องมอบโปรโมชั่นไปถึงที่ด้วย ซึ่งโปรโมชั่นที่ว่านั้น พิมรี่พายก็ไม่ได้แค่ลดราคาแบบปกติเท่านั้น ในหลายๆ โปรโมชั่นก็เป็นข้อเสนอที่คนดูอยู่ก็ยากจะปฏิเสธได้ เพราะเป็นการลดในระดับใจสั่น และจัดไม่ยั้งอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เธอมีฐานลูกค้ามากมาย และยอดขายในระดับที่หลายคนต้องอิจฉามาจนถึงทุกวันนี้