ตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของจีนนั้น นับเป็นอีกเทศกาลที่ได้รับความนิยมและความสนใจอย่างมาในไทยเรา ด้วยเหตุที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วก็มีวัฒนธรรมการไหว้เจ้าที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน จึงเป็นโอกาสที่ดีของอีกช่วงวันสำคัญในปี ที่แบรนด์นั้นจะหาซีนให้กับตัวเอง เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสได้เห็นแบรนด์ของเรามากขึ้น (Brand Awareness) รวมถึงยังสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมที่มี เพื่อเปลี่ยนจากแค่ความสนใจเป็นยอดขายขึ้นไปได้ด้วย
ซึ่งช่วงตรุษจีนนั้นก็เริ่มจะใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว หากเตรียมการช้าไปกว่านี้ก็อาจตกขบวน เกาะกระแสไปกับวัฒนธรรมนี้ไม่ทัน วันนี้ทาง Uppercuz เองก็อยากที่จะแนะนำเทคนิคง่ายๆ ในการทำแคมเปญปังๆ ที่ชวนให้คนจดจำ ให้เข้ากับช่วงตรุษจีนที่กำลังจะถึงนี้ เผื่อว่าใครสนใจก็สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองกันได้ เหมือนอย่างที่แบรนด์ใหญ่ๆ นั้นเริ่มกันแล้วในช่วงนี้
1) แก้ปัญหาให้ลูกค้าแบบเข้าใจวัฒนธรรม
ช่วงตรุษจีน แม้ว่าจะเป็นเทศกาลที่ผู้คนเฉลิมฉลองปีใหม่กันนั้น แต่ชีวิตจริงกลับเป็นอีกช่วงที่วุ่นวายในชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนอยู่ไม่น้อย เพราะคนจีนมีความเชื่อหลายๆ อย่างอยู่มากมาย ที่ต้องทำในช่วงเทศกาลนี้ ทั้งในเรื่องของการทำความสะอาดหรือตกแต่งบ้านรับปีใหม่ การจัดเตรียมอาหารทั้งกินและไหว้ที่ต้องยิ่งใหญ่ในช่วงนี้ นี่ยังไม่รวมไปถึงการวางแผนเดินทางพบปะเครือญาติต่างๆ อีก ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นับเป็นอีกปัญหาใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษรุ่นใหม่ๆ ที่จะต้องทำความเข้าใจกับพิธีการ หลักการ ที่มีมากมายขนาดนี้
การแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับบรรดาลูกค้าของเราได้ ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง ก็เป็นอีกหนทางที่เข้าอกเข้าใจลูกค้าอันแสนวุ่นวายในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ก็อาจมีการเตรียมของเป็นชุดไหว้ที่พร้อมเสร็จสรรพสำหรับนำไปใช้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องมานั่งศึกษาอะไรเพิ่มเติมกันแล้ว หรือมีการปรับเปลี่ยนอาหารให้เข้ากับยุคสมัยและเข้าใจผู้คนมากขึ้นในแบบที่ Bonchon เพิ่งได้ทำสำเร็จออกมา กับการไหว้เจ้าด้วยไก่ทอดทั้งตัว
ซึ่งนอกจากในแง่ของสินค้าแล้ว แต่ละธุรกิจก็ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ง่ายๆ กับการทำคอนเทนท์จำพวก 5 ข้อ ที่ต้องทำในการไหว้เจ้า, 4 ของไหว้ที่จำเป็นต้องใช้ในเทศกาลตรุษจีน อะไรแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของรูปภาพ, Infographic หรือเป็น Video Tutorial ที่สามารถนำไปใช้ได้บน Social Media ต่างๆ ก็น่าจะเป็นอีกคอนเทนท์ที่ได้รับความสนใจ และช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
2) หาแนวทางให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแคมเปญของเรา
อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ แต่ไม่ต้องลงไม่ลงมือเองซะเยอะ ก็คือการสร้างช่องทางให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมตรุษจีนของแบรนด์ ผ่านทาง Social Media หรือช่องทางต่างๆ ที่มี ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับกิจกรรมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างแสแบบปากต่อปาก จากลูกค้าด้วยกันเองอีกด้วย เพราะถึงอย่างไรผลวิจัยก็เคยมีออกมาแล้วว่า กว่า 92% ของลูกค้ามักเชื่อลูกค้าบอกต่อกันเองมากกว่าสิ่งที่แบรนด์สื่อสารออกมา
โดยสิ่งที่ธุรกิจสามารถเล่นได้กับทำคอนเทนท์เหล่านี้ก็คือ
- เริ่มประดิษฐ์ #Hashtag เจ๋งๆ ขึ้นมาสักอัน และทำเป็นในรูปแบบของ Challenge สักอย่างที่เชื่อมโยงกับวันตรุษจีน เพื่อให้ผู้คนต่างใช้ Hashtag นี้ มาร่วมกันโพสท์ถึงโมเมนท์ต่างๆ ของตัวเอง ร่วมกับลูกค้าคนอื่นๆ
- อาจมีการจัดเป็น Contest ในรูปแบบการร่วมประกวด และมีรางวัลมอบให้ ซึ่งในส่วนของรางวัลก็อาจเป็นอะไรที่น่าสนใจ และมีความเฉพาะตัว มีหนึ่งเดียว เกี่ยวข้องกับการแข่งขันที่กำหนดขึ้นมา และเข้ากับธีมตรุษจีนไปด้วย
อย่างในช่วงอดีตที่ผ่านมา แบรนด์น้ำอัดลมอย่าง Coca Cola ก็เคยมีการทำแคมเปญทำนองนี้ออกมาอยู่เหมือนกัน กับแคมเปญที่มีชื่อว่า Coca Cola Circle ที่เป็นการสร้าง Platform ขึ้นมาใหม่ และมีโจทย์คือ “การเสนอรูปคนที่ทำให้เรามีความสุข” ซึ่งแคมเปญนี้ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีรูปที่ถูก Upload ขึ้นไปกว่า 650,000 รูปเลยทีเดียว นับว่าเป็นการให้ผู้ใช้งาน หรือลูกค้าได้ทำการรังสรรค์คอนเทนท์ของตัวเอง ทั้งรูปภาพและเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจไม่น้อย
3) แคมเปญเริ่มได้จากภายในองค์กร
หลายคนอาจคิดว่าการทำการตลาดเกาะกระแสตรุษจีนนี่อาจจะทำได้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเริ่มต้นได้จากภายในองค์กรเองด้วยซ้ำ และในต่างประเทศ (หรือในไทยเอง) ก็มีหลายบริษัทที่มักมีกิจกรรมน่ารักๆ ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเหล่านี้ในทุกปีเหมือนกัน อย่างเช่น การแจกอั่งเปา หรือแต๊ะเอียให้กับพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน ซึ่งวิธีการเหล่านี้นอกจากจะเป็นการสร้างสีสันในที่ทำงาน และสร้างความบันเทิงให้กับพนักงานแล้ว การถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ก็ยังสามารถทำออกมาเป็นคอนเทนท์ดีๆ ที่จะไวรัลต่อไปได้อีกด้วย โดยการโปรโมทจากภายในก็สามารถเริ่มต้นได้ดังนี้
- เริ่มต้นตั้งแต่การถ่ายทำเตรียมการสิ่งต่างๆ ให้พนักงาน อย่างเช่น การเตรียมเงินแต๊ะเอีย หรืออั่งเปา ใส่ซอง เอาไว้ หรือหากจะเล่นใหญ่กว่านั้น ก็อาจเป็นการตกแต่งออฟฟิศให้เป็นธีมจีนก่อนวันเทศกาล หรือแม้แต่การทำอาหารจีนแบบโฮมเมดเอาไว้รองรับพนักงาน ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย
- ถ่ายปฏิกิริยาของพนักงานที่มีอาการเซอร์ไพร์ซ และใบหน้าแห่งความสุขของพนักงานเหล่านี้ ในขณะที่พวกเขากำลังได้รับซองอั่งเปาประจำปี หรืออาจจะสัมภาษณ์ความรู้สึกสนุกๆ ของพวกเขา
- นำวิดีโอมาตัดต่อให้ดูมีคุณภาพ ทำให้สนุกสนาน จากนั้นก็ปล่อยออกมาเพื่อให้ทุกคนได้เห็น
ซึ่งจะเห็นได้ว่ากิจกรรมในองค์กรแบบนี้ ก็จะสร้างสีสันให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี และคลิปเหล่านี้ก็สามารถเป็นไวรัลออกไปได้อีก ทั้งจากตัวพนักงานเองที่อาจแชร์ออกไปสู่เพื่อนๆ หรือคนรู้จักทั้งหลายถึงกิจกรรมน่ารักๆ แบบนี้ และในมุมคนภายนอกที่เห็นก็อาจจะเกิดความรู้สึกดีๆ กับกิจกรรมเหล่านี้ จนอาจจะอยากเข้ามาร่วมงานด้วย หรือแม้แต่ลูกค้าของแบรนด์เองก็อาจจะสนุกกับไปคลิปจนสร้าง Brand Awareness เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
4) โปรโมชั่นหรือการแจกของต้องมีความจีน
ให้ระลึกเอาไว้เลยว่า หากต้องการมีซีนไปกับเทศกาลแล้ว กิจกรรม แคมเปญ หรือการแจกของสัมนาคุณต่างๆ ให้มีความเป็นจีนให้ทั้งมากที่สุด ทั้งการเน้นสีที่แดงและด้วยความที่ปีนักษัตรของจีนปีนี้ก็ยังตรงกับปีวัว หากจะมีการทำอะไรออกมาก็ถ้ามีความเชื่อมโยง หรือมี Iconic ที่เป็นวัวได้ด้วยก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ อาจเป็นในลักษณะของการเล่นเกม เปิดซองอั่งเปาในแอพลิเคชั่น เพื่อได้รับ ส่วนลด หรือคูปองเงินสดต่างๆ
หรือแม้แต่การให้ของสัมมนาคุณกับลูกค้าบริษัท ก็อาจใช้การปรับของที่ต้องการแจกให้เข้ากับธีมด้วย เช่น ปฏิธินปีใหม่ธีมตรุษจีนสวยๆ สักเล่ม (ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีปฏิธินแบบดิจิทอลกันหมดแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า หลายๆ คนก็ยังคนชอบมีปฏิธินสวยๆ สักอันเอาไว้ประดับบ้านอยู่ดี) หรือของอย่าง ซองอั่งเปาก็มักได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำไปแจก เพราะเมื่อได้ไปแล้วก็สามารถนำไปใช้ต่อได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การพยายามใส่แบรนด์ของเราไปให้ผสมผสานความเป็นจีนให้ได้ลงตัว และคิดถึงผู้รับเสมอว่าจะต้องเป็นของที่พวกเขาอยากได้ เพียงเท่านี้ เราก็จะมีของขวัญธีมตรุษจีนดีๆ ที่อาจเป็นที่พูดถึงได้เลย